
สุนัขพันธุ์ไทยหลังอาน หรือที่ชาวบ้านเรียกกันทั่วไปว่า "หมาหลังอาน" เป็นมรดกของโลกที่มอบให้กับประเทศไทย จากวันนั้นจนวันนี้ ไม่มีใครสามารถสรุปได้ว่า หมาหลังอานนั้น ถือกำเนิดขึ้นมาตั้งแต่ยุคใดสมัยใด รูปร่างหน้าตาในยุคนั้นเป็นเช่นไร หลักฐานชิ้นเก่าแก่ทีสุดที่กล่าวถึงหมาไทยหลังอานที่ค้นพบก็คือ สมุดข่อย ที่ทำให้เรารู้ว่า หมาไทยหลังอาน ต้องมีหูตั้ง หางเหมือนดาบ ขนบนหลังขึ้นย้อนกลับ มองแล้วคล้ายกับอานของม้า เราจึงเรียกหมาพันธุ์นี้ว่า หมาหลังอาน
คำว่า "หมา" หลายคนบอกว่าเป็นคำไม่สุภาพ แต่จริงๆแล้ว เราก็ใช้เรียกกันมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ ในปัจจุบันคนส่วนใหญ่ก็ยังนิยมเรียกว่าหมา บางคนมีลูกน่ารัก ยังเรียก ไอ้ลูกหมา หรือไอ้หมา เลยก็มี ดังนั้นจึงขอใช้คำว่า หมา ก็แล้วกัน เพราะมันเป็นไทยๆ ดี
มักมีคำถามของผู้เลี้ยงมือใหม่อยู่เสมอว่า หมาสวยๆนั้นมีลักษณะอย่างไร สอบถามไปยังฟาร์มต่างๆหลายฟาร์ม ก็ได้หมาสวยหลายแบบ "เลยเป็นงง" เพราะไม่ว่าถามฟาร์มใด ก็จะได้คำตอบว่า หมาที่สวยที่สุด ก็คือหมาในฟาร์มของเขานั่นเอง จึงขอแนะนำให้นักเลี้ยงมือใหม่ๆ ว่า เมื่อได้ฟังคำตอบ หรือได้รับข้อมูลมาแล้ว ในการพิจารณาควรจะใช้วิจารณญาน ดุลยพินิจ บวกความน่าจะเป็น โดยมีมาตรฐานพันธุ์ที่จดไว้ กับ เอฟ ซี ไอ เป็นตัวตั้ง ก็จะได้คำตอบที่น่าจะดีที่สุด
มาเข้าเรื่องตามหัวข้อเลยดีกว่า เมื่อกล่าวถึงหมาหลังอานสายตะวันออก ก็จะมองเห็นภาพสีแดง ปากมอม กระโหลกโต โครงสร้างใหญ่ท ี่มีอยู่ทั่วไปในแถบจันทบุรี และตราด สาเหตุที่หมาหลังอานสายตะวันออก มีลักษณะเป็นเช่นนี้ อาจเป็นเพราะว่า ชาวบ้านสมัยก่อน เลี้ยงหมาไว้เป็นเพื่อนเฝ้าบ้าน และล่าสัตว์ การวิ่งไล่ล่าของมัน จะต้องมีการวิ่งมุดเข้าพงหญ้า ป่าละเมาะ ต้องมีการขุดรู กัดรากไม้เพื่อติดตามสัตว์ที่ล่า โครงสร้างจึงพัฒนาให้สอดคล้องกับการใช้งาน คือมีรูปร่างล่ำสัน แข็งแรง เต็มไปด้วยมัดกล้าม กระโหลกโต กรามใหญ่ แข็งแรง มีสัญชาตยานการไล่ล่าสูง และมีไม่น้อยที่หน้าต่ำ ท้ายสูง คงมาจากสาเหตุที่ต้องวิ่งมุดป่า เข้ารู เป็นประจำ
แต่ในปัจจุบัน วัตถุประสงค์การเลี้ยงหมาหลังอานเปลี่ยนไป คือในสมัยนี้เราจะเลี้ยงไว้เป็นเพื่อนแก้เหงา เพื่อประกวดความสวยงาม เมื่อมีผู้นิยมเลี้ยงกันมากขึ้น ผลที่ตามมาคือเลี้ยงเพื่อการค้า เมื่อมีผลประโยชน์ ก็ต้องมีการแข่งขันทางธุรกิจ ต่างคนจึงจำเป็นต้องพัฒนาหมาของตน ให้เป็นไปตามความต้องการของตลาด ผู้เลี้ยงจึงแบ่งออกเป็นหลายกลุ่ม หลายความคิด และมีแนวทางในการพัฒนาต่างกันออกไป แต่การที่จะสรุปว่า หมาตัวไหนสวย ก็ต้องวัดกันในสนามประกวด การประกวดจะต้องผ่านหลายสนามและกรรมการหลายคน จึงจะสรุปได้ว่าสวยจริง เมื่อวัตถุประสงค์ ในการเลี้ยงเปลี่ยนไป จึงจำเป็นต้องพัฒนาโครงสร้างของหมาให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ แต่ต้องคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ประจำพันธุ์
หมาหลังอานสายตะวันออก ในปัจจุบัน จึงมีลักษณะเปลี่ยนไปจากเดิม ทั้งในเรื่องโครงสร้าง จิตประสาท อารมณ์ ที่ดีขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก
หมาหลังอานเป็นมรดก ที่โลก มอบไว้ให้อยู่คู่กับประเทศไทย โดยหน้าที่ของเราซึ่งเป็นคนไทย ควรจะอนุรักษ์หมาหลังอานให้อยู่คู่ไทย และในขณะเดียวกัน ก็ต้องพัฒนาให้หมาหลังอาน สามารถเข้าไปแข่งขันความสามารถ และประกวดความสวยงามกับหมาทุกพันธุ์ ทั่วโลกได้
ท้ายนี้ ขอฝากข้อคิดถึงเพื่อนสมาชิกทุกท่านว่า งานใด กิจกรรมใด จะประสบผลสำเร็จได้ สมาชิกในกลุ่ม จะต้องมีความสมัครสมาน สามัคคี เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน และหาบทสรุปที่จะได้เดินไปยังจุดหมายปลายทางเดียวกัน
คำว่า "หมา" หลายคนบอกว่าเป็นคำไม่สุภาพ แต่จริงๆแล้ว เราก็ใช้เรียกกันมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ ในปัจจุบันคนส่วนใหญ่ก็ยังนิยมเรียกว่าหมา บางคนมีลูกน่ารัก ยังเรียก ไอ้ลูกหมา หรือไอ้หมา เลยก็มี ดังนั้นจึงขอใช้คำว่า หมา ก็แล้วกัน เพราะมันเป็นไทยๆ ดี
มักมีคำถามของผู้เลี้ยงมือใหม่อยู่เสมอว่า หมาสวยๆนั้นมีลักษณะอย่างไร สอบถามไปยังฟาร์มต่างๆหลายฟาร์ม ก็ได้หมาสวยหลายแบบ "เลยเป็นงง" เพราะไม่ว่าถามฟาร์มใด ก็จะได้คำตอบว่า หมาที่สวยที่สุด ก็คือหมาในฟาร์มของเขานั่นเอง จึงขอแนะนำให้นักเลี้ยงมือใหม่ๆ ว่า เมื่อได้ฟังคำตอบ หรือได้รับข้อมูลมาแล้ว ในการพิจารณาควรจะใช้วิจารณญาน ดุลยพินิจ บวกความน่าจะเป็น โดยมีมาตรฐานพันธุ์ที่จดไว้ กับ เอฟ ซี ไอ เป็นตัวตั้ง ก็จะได้คำตอบที่น่าจะดีที่สุด
มาเข้าเรื่องตามหัวข้อเลยดีกว่า เมื่อกล่าวถึงหมาหลังอานสายตะวันออก ก็จะมองเห็นภาพสีแดง ปากมอม กระโหลกโต โครงสร้างใหญ่ท ี่มีอยู่ทั่วไปในแถบจันทบุรี และตราด สาเหตุที่หมาหลังอานสายตะวันออก มีลักษณะเป็นเช่นนี้ อาจเป็นเพราะว่า ชาวบ้านสมัยก่อน เลี้ยงหมาไว้เป็นเพื่อนเฝ้าบ้าน และล่าสัตว์ การวิ่งไล่ล่าของมัน จะต้องมีการวิ่งมุดเข้าพงหญ้า ป่าละเมาะ ต้องมีการขุดรู กัดรากไม้เพื่อติดตามสัตว์ที่ล่า โครงสร้างจึงพัฒนาให้สอดคล้องกับการใช้งาน คือมีรูปร่างล่ำสัน แข็งแรง เต็มไปด้วยมัดกล้าม กระโหลกโต กรามใหญ่ แข็งแรง มีสัญชาตยานการไล่ล่าสูง และมีไม่น้อยที่หน้าต่ำ ท้ายสูง คงมาจากสาเหตุที่ต้องวิ่งมุดป่า เข้ารู เป็นประจำ
แต่ในปัจจุบัน วัตถุประสงค์การเลี้ยงหมาหลังอานเปลี่ยนไป คือในสมัยนี้เราจะเลี้ยงไว้เป็นเพื่อนแก้เหงา เพื่อประกวดความสวยงาม เมื่อมีผู้นิยมเลี้ยงกันมากขึ้น ผลที่ตามมาคือเลี้ยงเพื่อการค้า เมื่อมีผลประโยชน์ ก็ต้องมีการแข่งขันทางธุรกิจ ต่างคนจึงจำเป็นต้องพัฒนาหมาของตน ให้เป็นไปตามความต้องการของตลาด ผู้เลี้ยงจึงแบ่งออกเป็นหลายกลุ่ม หลายความคิด และมีแนวทางในการพัฒนาต่างกันออกไป แต่การที่จะสรุปว่า หมาตัวไหนสวย ก็ต้องวัดกันในสนามประกวด การประกวดจะต้องผ่านหลายสนามและกรรมการหลายคน จึงจะสรุปได้ว่าสวยจริง เมื่อวัตถุประสงค์ ในการเลี้ยงเปลี่ยนไป จึงจำเป็นต้องพัฒนาโครงสร้างของหมาให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ แต่ต้องคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ประจำพันธุ์
หมาหลังอานสายตะวันออก ในปัจจุบัน จึงมีลักษณะเปลี่ยนไปจากเดิม ทั้งในเรื่องโครงสร้าง จิตประสาท อารมณ์ ที่ดีขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก
หมาหลังอานเป็นมรดก ที่โลก มอบไว้ให้อยู่คู่กับประเทศไทย โดยหน้าที่ของเราซึ่งเป็นคนไทย ควรจะอนุรักษ์หมาหลังอานให้อยู่คู่ไทย และในขณะเดียวกัน ก็ต้องพัฒนาให้หมาหลังอาน สามารถเข้าไปแข่งขันความสามารถ และประกวดความสวยงามกับหมาทุกพันธุ์ ทั่วโลกได้
ท้ายนี้ ขอฝากข้อคิดถึงเพื่อนสมาชิกทุกท่านว่า งานใด กิจกรรมใด จะประสบผลสำเร็จได้ สมาชิกในกลุ่ม จะต้องมีความสมัครสมาน สามัคคี เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน และหาบทสรุปที่จะได้เดินไปยังจุดหมายปลายทางเดียวกัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น